10 วิธีประหยัดพลังงานในบ้านแบบเห็นผลจริง
10 วิธีประหยัดพลังงานในบ้านแบบเห็นผลจริง
วันที่ 23 เม.ย. 2562 , อ่าน 604 ครั้ง
พลังงานเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่เยอะก็จริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด สักวันหนึ่งพลังงานที่เอื้ออำนวยให้เราได้รับความสะดวกสบายทุกวันนี้ ก็มีโอกาสที่จะหมดไปจากโลกเราได้ง่าย ๆ เหมือนกัน ซึ่งปัญหาแหล่งทรัพยากรลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นประเด็นที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจไม่น้อย และหากคุณเองก็เป็นหนึ่งคนที่อยากจะประหยัดพลังงานกับเขาบ้าง ก็เริ่มได้ง่าย ๆ จากบ้านของเราเอง ซึ่งนอกจากจะได้ช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังส่งผลโดยตรงกับรายจ่ายประจำบ้าน ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ลองไปดูวิธีประหยัดพลังงานในบ้านกันนะคะ
1. ปรับอุณหภูมิแอร์อย่างเหมาะสม
ตามสถิติการใช้ไฟของทุกบ้านจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหลัก ๆ จะเกิดจากการเปิดใช้แอร์ที่มากขึ้นนั่นเอง และถึงแม้ว่าหลายคนจะรู้ดีอยู่แล้วว่า ควรจะปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ในระดับ 25 องศาเซลเซียส แต่บางครั้งความร้อนระอุของอากาศก็ทำให้เราเผลอลืมตัว ลดอุณหภูมิแอร์ลงอีกหน่อยอย่างช่วยไม่ได้ แต่ถ้าอยากจะประหยัดพลังงานจริง ๆ ต่อไปลองบังคับตัวเองให้เปิดแอร์ในอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสให้ได้ดีกว่านะ เพราะเพียงแค่นี้ก็ช่วยให้คุณลดการใช้พลังงานลงไปได้เยอะเชียวล่ะ
2. ลดการใช้แอร์
นอกจากการปรับอุณหภูมิแอร์ให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสแล้ว เราก็ควรเลี่ยงการเปิดแอร์บ้าง อย่างวันไหนที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจัดจนเกินไป เปิดแค่พัดลมและหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ก็น่าจะพอเนอะ ยิ่งพอเข้าสู่หน้าหนาว อากาศเย็น ๆ อย่างช่วงนี้ คงไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์สักเท่าไรเลย ก็ถือโอกาสใช้ช่วงเวลาหน้าหนาวให้เป็นประโยชน์ในการประหยัดไฟไปในตัว
3. ปิดก๊อกน้ำเมื่อไม่ใช้
หลายคนชอบให้น้ำอุ่น ๆ ไหลผ่านตัวอย่างสม่ำเสมอในเวลาอาบน้ำ เพราะมันให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวสุด ๆ แต่รู้ไหมคะว่า การเปิดน้ำทิ้งขว้างเกินความจำเป็นอย่างนั้น จะทำให้เราเสียพลังงานน้ำไปเท่าไร โดยเฉพาะคนที่ชอบเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ตลอด แม้ขณะยืนแปรงฟัน หรือตอนกำลังล้างจานอยู่ก็ตาม คงได้ตกใจกับบิลค่าน้ำปลายเดือนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะจ๊ะ
4. ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งาน
เพียงแค่ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ไม่ได้หมายความว่ากระแสไฟจะไม่ไหลเวียนผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณนะคะ ดังนั้นหากคุณไม่ได้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งาน ก็จะเท่ากับว่า คุณเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา และแม้จะกินไฟไม่เท่าตอนเปิดใช้งานเครื่องจริง ๆ แต่เพียงแค่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ก็สูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปได้ถึง 0.002 กิโลวัตต์/ ชั่วโมงเลยล่ะ
5. อาบน้ำเย็นเแทนน้ำอุ่น
ต้องยอมรับว่าการอาบน้ำอุ่น ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้มากจริง ๆ หลายคนก็เลยติดใจ ต้องอาบน้ำอุ่นทุกครั้ง แม้วันนั้นอากาศจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้ไหมคะว่า แค่คุณเลี่ยงการใช้น้ำอุ่น หรือแค่ลดอุณหภูมิน้ำอุณให้เย็นลงสักนิด ก็สามารถประหยัดไฟได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญหากเปลี่ยนใจมาอาบน้ำเย็นได้ ผิวพรรณของคุณก็จะดูชุ่มชื้นขึ้น ร่างกายก็จะได้ความสดชื่นอีกด้วยนะ
6. ติดม่านป้องกันความร้อน
โชคดีที่เรายังมีม่านหน้าต่าง สำหรับกันแสงแดด และความร้อนเข้าบ้านอยู่บ้าง เวลากลางวันบ้านจะได้ไม่โดนแดดส่องมากจนเกินไป จนทำให้บริเวณภายในบ้านสะสมความร้อนระอุเอาไว้ ลดการทำงานของแอร์ลงไปได้อีก นอกจากนี้วันไหนที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น ก็สามารถรูดม่านมาเปิดลมเย็น ๆ จากภายนอกได้ด้วย อ้อ ! รวมทั้งวันไหนที่คุณต้องการแสงสว่างในบ้านมาก ๆ เพียงแค่เปิดม่าน ปรับแสงให้ส่องเข้ามาในบ้านของเรามากขึ้น ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเปิดโคมไฟในบ้านอีกด้วยจ้า
7. ซักผ้าด้วยระบบน้ำเย็น
เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่มักจะมีระบบซักด้วยน้ำร้อนพ่วงมาด้วย เพื่อการันตีว่าการซักผ้าของเราจะสะอาด ปราศจากเชื้อโรคได้มากที่สุด แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปคลุกฝุ่น ลุยโคลนที่ไหน ก็ใช้น้ำยาซักผ้าธรรมดา และซักผ้าด้วยระบบน้ำอุณหภูมิปกติก็เพียงพอให้ผ้าสะอาดหมดจดแล้วล่ะ แต่ถ้าอยากฆ่าเชื้อโรคแนะนำให้เทน้ำส้มสายชูลงไปผสมกับน้ำยาซักผ้าสัก 1 ถ้วยตวง รับรองว่าเชื้อโรคสลายตัวแน่ ๆ
8. เลี่ยงการอบผ้า
ในวันที่แดดจัด อากาศก็ร้อน หรือในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง ๆ แบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าให้เปลืองไฟเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ซักผ้าตามระบบปกติ แล้วนำผ้าไปตากให้ที่แจ้ง ให้แดดและลมทำหน้าที่ดูดซับความชื้นจากเสื้อผ้าออกไปจนแห้งสนิทก็พอแล้ว
9. เลือกใช้หลอดประหยัดไฟ
หากในบ้านของคุณยังคงใช้หลอดไฟแบบธรรมดา ไม่ได้มีฉลากประหยัดไฟ คงต้องลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบฟลูออร์เรสเซ้นส์แล้วล่ะ เพราะหลอดไฟแบบประหยัดไฟ ให้แสงสว่างพอ ๆ กับหลอดไฟธรรมดา แต่ไม่ทำให้เปลืองไฟนะจ๊ะ
10. ล้างฟิลเตอร์แอร์และพัดลมฟอกอากาศเสมอ
สำหรับบ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรต้องถอดฟิลเตอร์แอร์ออกมาล้างทำความสะอาดบ่อย ๆ เพราะถ้าปล่อยให้ฝุ่นละอองสะสมอยู่ในฟิลเตอร์อย่างนั้น จะทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น เปลืองไฟอย่างใช่เหตุ นอกจากนี้ควรถอดพัดลมฟอกอากาศมาล้างด้วย ลมเย็น ๆ จะได้พัดผ่านเข้ามาในบ้านเราได้อย่างสะดวก
จริง ๆ แล้วยังมีวิธีประหยัดพลังงานอีกมากมายที่เราสามารถทำได้ อย่างเช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือใช้จักรยาน และใช้บริการรถสาธารณะแทนการขับรถส่วนตัว แต่บางอย่างก็ต้องยอมรับว่า ค่อนข้างลำบากที่จะทำ ดังนั้นวิธีประหยัดพลังงานที่เราแนะนำ ก็น่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ เนอะ
1. ปรับอุณหภูมิแอร์อย่างเหมาะสม
ตามสถิติการใช้ไฟของทุกบ้านจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหลัก ๆ จะเกิดจากการเปิดใช้แอร์ที่มากขึ้นนั่นเอง และถึงแม้ว่าหลายคนจะรู้ดีอยู่แล้วว่า ควรจะปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ในระดับ 25 องศาเซลเซียส แต่บางครั้งความร้อนระอุของอากาศก็ทำให้เราเผลอลืมตัว ลดอุณหภูมิแอร์ลงอีกหน่อยอย่างช่วยไม่ได้ แต่ถ้าอยากจะประหยัดพลังงานจริง ๆ ต่อไปลองบังคับตัวเองให้เปิดแอร์ในอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสให้ได้ดีกว่านะ เพราะเพียงแค่นี้ก็ช่วยให้คุณลดการใช้พลังงานลงไปได้เยอะเชียวล่ะ
2. ลดการใช้แอร์
นอกจากการปรับอุณหภูมิแอร์ให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสแล้ว เราก็ควรเลี่ยงการเปิดแอร์บ้าง อย่างวันไหนที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจัดจนเกินไป เปิดแค่พัดลมและหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ก็น่าจะพอเนอะ ยิ่งพอเข้าสู่หน้าหนาว อากาศเย็น ๆ อย่างช่วงนี้ คงไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์สักเท่าไรเลย ก็ถือโอกาสใช้ช่วงเวลาหน้าหนาวให้เป็นประโยชน์ในการประหยัดไฟไปในตัว
3. ปิดก๊อกน้ำเมื่อไม่ใช้
หลายคนชอบให้น้ำอุ่น ๆ ไหลผ่านตัวอย่างสม่ำเสมอในเวลาอาบน้ำ เพราะมันให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวสุด ๆ แต่รู้ไหมคะว่า การเปิดน้ำทิ้งขว้างเกินความจำเป็นอย่างนั้น จะทำให้เราเสียพลังงานน้ำไปเท่าไร โดยเฉพาะคนที่ชอบเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ตลอด แม้ขณะยืนแปรงฟัน หรือตอนกำลังล้างจานอยู่ก็ตาม คงได้ตกใจกับบิลค่าน้ำปลายเดือนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะจ๊ะ
4. ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งาน
เพียงแค่ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ไม่ได้หมายความว่ากระแสไฟจะไม่ไหลเวียนผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณนะคะ ดังนั้นหากคุณไม่ได้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งาน ก็จะเท่ากับว่า คุณเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา และแม้จะกินไฟไม่เท่าตอนเปิดใช้งานเครื่องจริง ๆ แต่เพียงแค่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ก็สูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปได้ถึง 0.002 กิโลวัตต์/ ชั่วโมงเลยล่ะ
5. อาบน้ำเย็นเแทนน้ำอุ่น
ต้องยอมรับว่าการอาบน้ำอุ่น ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้มากจริง ๆ หลายคนก็เลยติดใจ ต้องอาบน้ำอุ่นทุกครั้ง แม้วันนั้นอากาศจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้ไหมคะว่า แค่คุณเลี่ยงการใช้น้ำอุ่น หรือแค่ลดอุณหภูมิน้ำอุณให้เย็นลงสักนิด ก็สามารถประหยัดไฟได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญหากเปลี่ยนใจมาอาบน้ำเย็นได้ ผิวพรรณของคุณก็จะดูชุ่มชื้นขึ้น ร่างกายก็จะได้ความสดชื่นอีกด้วยนะ
6. ติดม่านป้องกันความร้อน
โชคดีที่เรายังมีม่านหน้าต่าง สำหรับกันแสงแดด และความร้อนเข้าบ้านอยู่บ้าง เวลากลางวันบ้านจะได้ไม่โดนแดดส่องมากจนเกินไป จนทำให้บริเวณภายในบ้านสะสมความร้อนระอุเอาไว้ ลดการทำงานของแอร์ลงไปได้อีก นอกจากนี้วันไหนที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น ก็สามารถรูดม่านมาเปิดลมเย็น ๆ จากภายนอกได้ด้วย อ้อ ! รวมทั้งวันไหนที่คุณต้องการแสงสว่างในบ้านมาก ๆ เพียงแค่เปิดม่าน ปรับแสงให้ส่องเข้ามาในบ้านของเรามากขึ้น ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเปิดโคมไฟในบ้านอีกด้วยจ้า
7. ซักผ้าด้วยระบบน้ำเย็น
เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่มักจะมีระบบซักด้วยน้ำร้อนพ่วงมาด้วย เพื่อการันตีว่าการซักผ้าของเราจะสะอาด ปราศจากเชื้อโรคได้มากที่สุด แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปคลุกฝุ่น ลุยโคลนที่ไหน ก็ใช้น้ำยาซักผ้าธรรมดา และซักผ้าด้วยระบบน้ำอุณหภูมิปกติก็เพียงพอให้ผ้าสะอาดหมดจดแล้วล่ะ แต่ถ้าอยากฆ่าเชื้อโรคแนะนำให้เทน้ำส้มสายชูลงไปผสมกับน้ำยาซักผ้าสัก 1 ถ้วยตวง รับรองว่าเชื้อโรคสลายตัวแน่ ๆ
8. เลี่ยงการอบผ้า
ในวันที่แดดจัด อากาศก็ร้อน หรือในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง ๆ แบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าให้เปลืองไฟเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ซักผ้าตามระบบปกติ แล้วนำผ้าไปตากให้ที่แจ้ง ให้แดดและลมทำหน้าที่ดูดซับความชื้นจากเสื้อผ้าออกไปจนแห้งสนิทก็พอแล้ว
9. เลือกใช้หลอดประหยัดไฟ
หากในบ้านของคุณยังคงใช้หลอดไฟแบบธรรมดา ไม่ได้มีฉลากประหยัดไฟ คงต้องลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบฟลูออร์เรสเซ้นส์แล้วล่ะ เพราะหลอดไฟแบบประหยัดไฟ ให้แสงสว่างพอ ๆ กับหลอดไฟธรรมดา แต่ไม่ทำให้เปลืองไฟนะจ๊ะ
10. ล้างฟิลเตอร์แอร์และพัดลมฟอกอากาศเสมอ
สำหรับบ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรต้องถอดฟิลเตอร์แอร์ออกมาล้างทำความสะอาดบ่อย ๆ เพราะถ้าปล่อยให้ฝุ่นละอองสะสมอยู่ในฟิลเตอร์อย่างนั้น จะทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้น เปลืองไฟอย่างใช่เหตุ นอกจากนี้ควรถอดพัดลมฟอกอากาศมาล้างด้วย ลมเย็น ๆ จะได้พัดผ่านเข้ามาในบ้านเราได้อย่างสะดวก
จริง ๆ แล้วยังมีวิธีประหยัดพลังงานอีกมากมายที่เราสามารถทำได้ อย่างเช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือใช้จักรยาน และใช้บริการรถสาธารณะแทนการขับรถส่วนตัว แต่บางอย่างก็ต้องยอมรับว่า ค่อนข้างลำบากที่จะทำ ดังนั้นวิธีประหยัดพลังงานที่เราแนะนำ ก็น่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ เนอะ
ข่าวสารประชาสัมพันธ์
สถิติการเข้าใช้งาน
เข้าชม วันนี้ | 314 |
เข้าชม เมื่อวาน | 430 |
เข้าชม เดือนนี้ | 8,708 |
เข้าชม เดือนก่อน | 12,409 |
เข้าชม ปีนี้ | 157,640 |
เข้าชม ปีก่อน | 139,237 |